การทดสอบการได้ยิน เป็นการตรวจเพื่อประเมินความสามารถในการได้ยินของบุคคล ใช้ในการวินิจฉัยและประเมินระดับความรุนแรงของการสูญเสียการได้ยิน รวมถึงเพื่อติดตามผลการรักษาการสูญเสียการได้ยิน
ซึ่งขั้นตอนการทดสอบการได้ยินโดยทั่วไป มีดังนี้
1. ประวัติทางการแพทย์
แพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์และประวัติครอบครัวของผู้เข้ารับการตรวจ รวมถึงประวัติการสัมผัสกับเสียงดัง
2. การตรวจหู
แพทย์จะตรวจหูภายนอกและภายใน เพื่อประเมินสภาพของหูและเยื่อแก้วหู
3. การทดสอบการได้ยิน
การทดสอบการได้ยินมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของการสูญเสียการได้ยินและความต้องการของผู้เข้ารับการตรวจ โดยการตรวจการได้ยินที่นิยม มีดังนี้
- การทดสอบการได้ยินทางอากาศ (Air conduction) : ใช้เครื่องวัดระดับเสียง (audiometer) ส่งเสียงไปยังหูผ่านการสั่นของอากาศ
- การทดสอบการได้ยินทางกระดูกนำเสียง (Bone conduction) : ใช้เครื่องวัดระดับเสียงส่งเสียงไปยังหูผ่านกระดูก
- การทดสอบการได้ยินโดยใช้เสียงพูด (Speech audiometry) : ใช้เครื่องวัดระดับเสียงส่งเสียงพูดไปยังหู เพื่อประเมินความสามารถในการเข้าใจเสียงพูด
4. ผลการตรวจ
ผลการตรวจการได้ยินจะแสดงเป็นระดับความดังของเสียงที่ได้ยินได้ในแต่ละความถี่ โดยระดับความรุนแรงของการสูญเสียการได้ยินแบ่งออกเป็น 5 ระดับตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO)
ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังการทดสอบการได้ยิน
- ก่อนการทดสอบการได้ยิน : ควรหลีกเลี่ยงการฟังเสียงดัง
- หลังการทดสอบการได้ยิน : อาจมีอาการเวียนศีรษะหรือคลื่นไส้ได้ อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชั่วโมง
หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดกำลังประสบปัญหาการสูญเสียการได้ยิน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม